ไฮแรม บิงแฮม
ไฮแรม บิงแฮมที่สาม | |
---|---|
เกิด | 19 พฤศจิกายน ค.ศ. 1875 โฮโนลูลู, ราชอาณาจักรฮาวาย |
เสียชีวิต | 6 มิถุนายน ค.ศ. 1956 วอชิงตัน ดี.ซี. | (80 ปี)
สัญชาติ | อเมริกัน |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยเยล University of California-Berkeley มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด |
พรรคการเมือง | พรรคริพับลิกัน |
คู่สมรส | 1) Alfreda Mitchell (div.) 2) Suzanne Carroll Hill |
บุตร | Jonathan Brewster Bingham Hiram Bingham IV Charles Tiffany Bingham Brewster Bingham Mitchell Bingham Woodbridge Bingham Alfred Mitchell Bingham |
ไฮแรม บิงแฮม (Hiram Bingham III – 19 พฤศจิกายน พ.ศ. 2418 - 6 มิถุนายน 2499) นักสำรวจ นักวิชาการ และวุฒิสมาชิกชาวอเมริกัน ผลงานที่โดดเด่นคือ การค้นพบที่ตั้งถิ่นฐานของชาวอินคา ในเมืองมาชูปิกชู เมื่อ พ.ศ. 2454 ภายหลังบิงแฮมได้เป็นผู้ว่าการรัฐคอนเน็คติคัต และสมาชิกวุฒิสภาสหรัฐอเมริกา
ไฮแรม บิงแฮมเกิดที่โฮโนลูลู รัฐฮาวาย เป็นบุตรของมิสชันนารีนิกายโปรเตสแตนท์ชาวอเมริกัน ศึกษาและเชี่ยวชาญด้านประวัติศาสตร์อเมริกาใต้ จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยเยล (พ.ศ. 2441) มหาวิทยาลัยแคลิฟอร์เนียวิทยาเขตเบิร์คลีย์ (พ.ศ. 2443) และมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด (พ.ศ. 2448) เข้าเป็นอาจารย์สอนวิชาประวัติศาสตร์และการเมืองที่ฮารร์วาร์ด ไปรับตำแหน่งอาจารย์ผู้ช่วยของวูดโรว์ วิลสัน (ต่อมาเป็นประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ) และในปี พ.ศ. 2450 มหาวิทยาลัยเยลได้แต่งตั้งบิงแฮมเป็นอาจารย์ผู้บรรยายวิชาประวัติศาสตร์อเมริกาใต้และต่อมาได้เป็นศาสตราจารย์ในสาขาวิชานี้
ชีวิตนักโบราณคดี
[แก้]ไฮแรม บิงแฮมได้สำรวจลาตินอเมริกาในช่วงประมาณปี พ.ศ. 2463-2468 และได้การยอมรับว่าเป็นผู้ค้นพบซากปรักหักพังของอารยธรรมอินคา คือ มาชูปิกชู (พ.ศ. 2454) โดยในครั้งแรกบิงแฮมได้เป็นผู้แทนสมาคมวิทยาศาสตร์อเมริกันไปประชุมที่ประเทศชิลี ในช่วงขากลับได้แวะผ่านเปรูและได้รับการชักชวนจากเจ้าหน้าที่ท้องถิ่นไปสำรวจเมืองโบราณยุคก่อนโคลัมเบีย ปีถัดมา บิงแฮมได้กลับมาในฐานะทีมสำรวจเปรูของมหาวิทยาลัยเยลในปี พ.ศ. 2454 และได้พบมาชูปิกชู ด้วยการนำทางของคนนำทางพื้นถิ่นซึ่งเป็นผู้หนึ่งในจำนวนไม่กี่คนที่ทราบว่ามีซากของมาชูปิกชูอยู่บนภูเขา บิงแฮมได้กลับมาสำรวจมาชูปิกชูอีก 2 ครั้ง ในปี พ.ศ. 2455 และ 2458 โดยการสนับสนุนของมหาวิทยาลัยเยลและสมาคมภูมิศาสตร์แห่งชาติ (National Geographic Society)
มาชูปิกชู ได้กลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญของอเมริกาใต้ และไฮแรม บิงแฮมก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้เปิดเผยมาชูปิกชูให้เป็นที่ประจักษ์ต่อชาวโลกแม้จะมีผู้มีส่วนร่วมในการฟื้นฟูอีกเป็นจำนวนมาก กล่าวกันว่าตัวลครอินเดียนา โจนส์ ในภาพยนตร์ผจญภัยได้อาศัยประวัติของบิงแฮมเป็นพื้นฐานในการประพันธ์ ถนนที่ตัดจากแม่น้ำอูรูแบมบาไปยังโบราณสถานแห่งนี้มีชื่อว่า ทางหลวงไฮแรม บิงแฮม
ชีวิตทหารและนักการเมือง
[แก้]ในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 1 บิงแฮมได้เป็นหัวหน้าหน่วยบริการทางอากาศในวอชิงตัน และได้ดำรงตำแหน่งเดียวกันในกองกำลังสำรวจฝ่ายสัมพันธมิตรในฝรั่งเศสในระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 ในปี พ.ศ. 2465 บิงแฮมได้รับเลือกตั้งเป็นรองผู้ว่าการรับคอนเนกติกัตและได้รับการเลือกตั้งเป็นผู้ว่าการรัฐฯ ในสองปีต่อมาซึ่งเป็นเวลาเดียวกันกับการได้รับเลือกตั้งเป็นวุฒิสมาชิกแห่งรัฐคอนเนกติกัท แทนคนเดิมที่เสียชีวิต (พ.ศ. 2467-2475) บิงแฮมจึงเป็นผู้ว่าการรัฐฯ ที่ดำรงตำแหน่งสั้นที่สุด คือหนึ่งวัน บิงแฮมเป็นนายกสมาคมการเดินอากาศแห่งชาติ (พ.ศ. 2471-2477)
ไฮแรม บิงแฮมได้กลายเป็นนักอนุรักษนิยมมากขึ้นตามเวลาที่ผ่านไป ในช่วงที่เขาได้รับการแต่งเป็นประธานกรรมาธิการพิจารณาความซื่อสัตย์สุจริตของข้ารัฐการอเมริกัน (พ.ศ. 2494-2496) ได้บีบบังคับให้พนักงานของรัฐออกจากงานไปเป็นจำนวนมาก
วาระสุดท้าย
[แก้]บิงแฮมถึงแก่กรรมเมื่อวันที่ 6 มิถุนายน พ.ศ. 2499 ที่บ้าน ในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ศพของเขาถูกนำไปฝังในสุสานแห่งชาติอาร์ลิงตัน ในมืองอาร์ลิงตัน รัฐเวอร์จิเนีย บุตรชายของเขา คือ ไฮแรม บิงแฮม ที่ 4 เป็นนักการทูต และวีรบุรุษในสงครามโลกครั้งที่ 2 ขณะที่บุตรอีกคน คือ โจนาธาน บรูสเตอร์ บิงแฮม เป็นสมาชิกพรรคเดโมแครต ในสภาคองเกรสแห่งสหรัฐอเมริกา
อ้างอิง
[แก้]- ↑ "SENATORS OF THE UNITED STATES 1789-present, A chronological list of senators since the First Congress in 1789" (PDF). United States Senate.
อ่านเพิ่มเติม
[แก้]- Balm, Roger. "Discovery as autobiography: the Machu Picchu case." Terrae Incognitae 40.1 (2008): 102-113.
- Bingham, Alfred M. "Raiders of the Lost City" American Heritage (1987) 38#5 pp 54–63.
- Bingham, Alfred Mitchell. Explorer of Machu Picchu: Portrait of Hiram Bingham (Triune Books, 1989).
- Gade, Daniel W. "Urubamba Ramble: Hiram Bingham (1875–1956) and His Artful Encounter with Machu Picchu." in Gade, "Spell of the Urubamba: Anthropogeographical Essays on an Andean Valley in Space and Time" (Springer, 2016) pp. 239–272.
- Hall, Amy Cox. "Collecting a “Lost City” for Science: Huaquero Vision and the Yale Peruvian Expeditions to Machu Picchu, 1911, 1912, and 1914–15." Ethnohistory 59.2 (2012): 293-321. online[ลิงก์เสีย]
- Rice, Mark. Making Machu Picchu: The Politics of Tourism in Twentieth-Century Peru (U of North Carolina Press, 2018) online review
- Salvatore, Ricardo D. Disciplinary Conquest: US Scholars in South America, 1900–1945 (Duke University Press, 2016),